มีกี่ข้อสงสัย. มันเป็นเรื่องจริง แต่นอกเหนือจากการเป็นอัตถิภาวนิยมหรือภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกในภาพสาธารณะไม่จำเป็นที่จะต้องหยุดและประเมินการรับรู้ในฐานะที่เป็นขั้นตอนที่มนุษย์ต้องรู้จักความเป็นจริงและหลอมรวมเข้ากับมัน
การรับรู้คืออะไร? ตามที่ RAE เป็น "ความรู้สึกภายในที่เป็นผลมาจากความรู้สึกทางวัตถุที่เกิดขึ้นในประสาทสัมผัสของเรา" ผู้เขียนหลายคนได้ศึกษาเรื่องนี้โดยระบุว่าไม่เพียงแค่นั้น แต่ยังรวมถึงขั้นตอนของการทดลองกับความเป็นจริง (สิ่งเร้าเหล่านั้น) และการตีความ
ดังนั้นจึงเป็นที่เข้าใจได้ว่าหากการรับรู้มีความซับซ้อนดังนั้นโดยการใช้สิ่งนั้นเราจะได้รู้ว่าบางสิ่งเป็นจริงหรือจินตนาการและจากที่นั่นทำให้เราตัดสินใจได้
สิ่งหลังมีความสำคัญเพราะขึ้นอยู่กับความคิดที่เราหลอมรวมในลักษณะนี้มันจะมีพฤติกรรมเช่นสิ่งที่เราคิดสิ่งที่เราซื้อสิ่งที่เรามีปฏิกิริยาตอบสนองถ้าเรายอมรับบางสิ่งบางอย่างถ้าเราเชื่อในมันหรือว่าเราตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตตามประสบการณ์หรือไม่
แต่มันเป็นความจริงที่เมื่อเราไม่เห็นด้วยกับใครบางคนเราจะตัดสิทธิ์ความคิดเห็นของพวกเขาเพราะคน ๆ นั้นไม่เห็นความจริงความเป็นจริง แต่ความจริงอะไรของเขาหรือของเธอหรือของฉันที่ฉันต้องการให้มีชัย?
สิ่งที่เรายอมรับไม่ได้ก็คือความคิดเห็นที่บุคคลแสดงออกเป็นผลมาจากการตีความที่เขาสร้างขึ้นจากสิ่งเร้าที่เขาจัดการเพื่อหลอมรวมจาก "ความเป็นจริง" ที่เขาเข้าถึงได้ลองนึกภาพถ้านักจิตวิทยาบอกว่าชายและหญิงมองเห็นและรู้สึกแตกต่างกันหากนักสังคมวิทยากำลังค้นหาแนวคิดร่วมกันของสังคมที่ขาดการเชื่อมต่อกันมากขึ้นหากนักการตลาดต้องการค้นหาลักษณะของผู้ชมที่มีความเป็นปัจเจกบุคคลมากขึ้น ยังไงเราก็ยอม
เป็นเรื่องจริงที่ทุกคนคิดแตกต่างกันและความเป็นจริงที่หลอมรวมนั้นเป็นเรื่องปัจเจกบุคคล แต่เมื่อบุคคลผู้คนหรือกลุ่มคนอยู่ภายใต้สิ่งเร้าบางอย่างซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามีความคล้ายคลึงกันในวิธีคิดและในอารมณ์ที่ถูกกระตุ้น การรับรู้โดยรวมว่าด้วยแรงจูงใจที่เหมาะสมจะกระตุ้นให้เกิดการตอบสนองโดยรวมที่เป็นหนึ่งเดียวสำหรับความน่าเชื่อถือหรือไม่ของข้อเสนอ
โดยสรุปข้างต้นหมายถึงการรับรู้โดยรวมซึ่งเรียกอีกอย่างว่าภาพสาธารณะเพราะเราทุกคนเห็นและรู้สึกถึงความเป็นจริงโดยทั่วไป
การรับรู้เป็นความจริงหรือไม่? บรรทัดล่างคือแนวคิดทั่วไปนี้ใช้ได้เพราะเป็นสิ่งที่หลอมรวม ถ้าไม่เราจะรู้ความจริงได้อย่างไร?