โลจิสติกส์ย้อนกลับและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ตลอดหลายปีที่ผ่านมาทั่วโลกโลจิสติกส์เป็นส่วนสำคัญของห่วงโซ่อุปทานสำหรับการกระจายสินค้าที่ถูกต้องด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าและการบริการลูกค้าที่มีคุณภาพด้วยวิธีนี้โลจิสติกส์จึงพยายามควบคุมสินค้าคงเหลือจัดการ การไหลการจัดหาและการจัดเก็บผลิตภัณฑ์

โลจิสติกส์ย้อนกลับเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งที่องค์กรควรใช้เรียกว่า บริษัท ที่รับผิดชอบต่อสังคมเนื่องจากโลจิสติกส์ย้อนกลับไม่เพียง แต่นำไปใช้กับการกระจายสินค้าจนถึงการขายเท่านั้น แต่ยังใช้กับการรวบรวมของเสียหลังจาก การขายของพวกเขา บริษัท จะต้องมุ่งมั่นที่จะรวบรวมส่วนประกอบของเสียเพื่อรีไซเคิลและนำกลับมาใช้ใหม่

บทความนี้พยายามทำความเข้าใจว่าโลจิสติกส์ย้อนกลับประกอบด้วยอะไรการประยุกต์ใช้ในองค์กรข้อดีข้อเสียและขั้นตอนในการดำเนินการให้ประสบความสำเร็จ

ค

ในการเริ่มต้นเข้าสู่หัวข้อโลจิสติกส์ย้อนกลับจำเป็นต้องรู้แนวคิดพื้นฐานที่ควบคุมเครื่องมือนี้เพื่อให้เข้าใจได้ดีขึ้นและไม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับมัน

Royal Academy of the Spanish Language ให้คำจำกัดความของการขนส่งว่า: "วิธีการและวิธีการจัดระเบียบบางสิ่ง" (สเปน, 2544).

โลจิสติกส์: หมายถึงกระบวนการจัดตารางการดำเนินการและควบคุมการไหลเวียนของวัตถุดิบสินค้าคงคลังระหว่างกระบวนการผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปและข้อมูลที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นทางจนถึงจุดบริโภคอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ตรงตามความต้องการของลูกค้าปลายทาง (UNAM, 2559).

โลจิสติกส์และซัพพลายเชนคือชุดของกิจกรรมการทำงาน (การขนส่งการควบคุมสินค้าคงคลัง ฯลฯ) ที่ทำซ้ำหลาย ๆ ครั้งตามช่องทางการไหลซึ่งวัตถุดิบจะถูกแปลงเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปและมีการเพิ่มมูลค่าสำหรับ ผู้บริโภค เนื่องจากแหล่งวัตถุดิบโรงงานและร้านค้ามักไม่ได้ตั้งอยู่ในสถานที่เดียวกันและช่องทางการไหลแสดงลำดับขั้นตอนการผลิตกิจกรรมโลจิสติกส์จึงเกิดขึ้นหลายครั้งก่อนที่สินค้าจะมาถึง ไปยังตลาดของคุณ (Ballou, 2004).

โลจิสติก "เป็นกระบวนการที่ บริษัท จัดการการเคลื่อนย้ายการกระจายและการจัดเก็บสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพอย่างเพียงพอนอกเหนือจากการควบคุมสินค้าคงคลังในขณะที่จัดการกระแสข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้สำเร็จ" (บาสโตสบูเบตา, 2550).

จากคำจำกัดความเหล่านี้เราสามารถกำหนดโลจิสติกส์ว่าเป็นกระบวนการที่มีการดำเนินการและควบคุมการไหลของวัตถุดิบสินค้าคงเหลือผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปการจัดเก็บและการกระจายที่มีประสิทธิภาพสำหรับลูกค้าปลายทางและได้รับความพึงพอใจในการส่งมอบตรงเวลา บริการและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ

ตอนนี้เรามากำหนดแนวคิดของโลจิสติกส์ย้อนกลับและผู้เขียนหลายคนกำหนดแนวคิดในรูปแบบต่างๆ

โลจิสติกส์ย้อนกลับเรียกว่ากระบวนการวางแผนดำเนินการและควบคุมการไหลของผลิตภัณฑ์จากจุดบริโภคไปยังจุดกำเนิดอย่างมีประสิทธิภาพโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกู้คืนมูลค่าหรือสิ่งตอบแทนนั้นเอง (บาสโตสบูเบตา, 2550).

โลจิสติกส์ย้อนกลับเป็นกระบวนการของการวางแผนการดำเนินการและการควบคุมการไหลของวัตถุดิบสินค้าคงคลังระหว่างกระบวนการและสินค้าสำเร็จรูปตั้งแต่จุดใช้งานการผลิตหรือการจัดจำหน่ายจนถึงจุดที่มีการกู้คืนหรือการกำจัดอย่างเพียงพอ (Mihi, Arias Aranda และGarcía Morales, 2012)

โลจิสติกส์ย้อนกลับเป็นกระบวนการในการจัดทำโครงการดำเนินการและควบคุมการไหลเวียนของวัตถุดิบสินค้าคงคลังระหว่างกระบวนการผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปในข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากจุดบริโภคไปยังจุดกำเนิดด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพและประหยัดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ กู้คืนค่าหรือของผลตอบแทนเอง มีหน้าที่รับผิดชอบในการกู้คืนและรีไซเคิลภาชนะบรรจุหีบห่อและของเสียอันตรายตลอดจนกระบวนการคืนสินค้าคงคลังส่วนเกินการคืนสินค้าและสินค้าคงเหลือตามฤดูกาล การสิ้นสุดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์จะถูกนำไปข้างหน้าเพื่อให้เป็นทางออกในตลาดที่มีการหมุนเวียนสูงขึ้น (Rosas, Rosas, Rodríguez, Castañedaและ Torres, 2009)

จากคำจำกัดความเหล่านี้เราสามารถพูดได้ว่าโลจิสติกส์ย้อนกลับคือกระบวนการวางแผนดำเนินการและควบคุมการไหลของวัตถุดิบสินค้าคงเหลือจากมุมมองของการบริโภคเพื่อกู้คืนและรีไซเคิลภาชนะบรรจุภัณฑ์และของเสียอันตรายที่ทิ้งโดย ผู้บริโภคขั้นสุดท้ายนำเข้าสู่กระบวนการโลจิสติกส์

วัตถุประสงค์และวัตถุประสงค์ของโลจิสติกส์ย้อนกลับ

ความสนใจในโลจิสติกส์ย้อนกลับในสาขาต่างๆนั้นค่อนข้างทันสมัย

จุดเริ่มต้นย้อนกลับไปในช่วงต้นทศวรรษ 1970 เมื่อโครงสร้างของช่องทางการจัดจำหน่ายสำหรับการรีไซเคิลสมาชิกที่มีส่วนร่วมในช่องทางเหล่านี้ฟังก์ชั่นใหม่ ฯลฯ เริ่มได้รับการวิเคราะห์ แต่นับตั้งแต่ยุค 90 เป็นต้นมาเมื่อเริ่มมีการศึกษาการจัดการผลิตภัณฑ์สิ้นอายุการใช้งานและระบบโลจิสติกส์ที่เกี่ยวข้องในเชิงลึกมากขึ้น

ปัจจุบัน บริษัท ต่างๆควรจัดการกับ Reverse Logistics โดยการวิเคราะห์กระบวนการโลจิสติกส์ที่เกี่ยวข้องกับการส่งคืนผลิตภัณฑ์จากผู้บริโภคไปยังผู้ผลิตการรีไซเคิลการนำวัสดุและส่วนประกอบกลับมาใช้ใหม่การกำจัดของเสียและการดำเนินการปรับสภาพซ่อมแซมและเปลี่ยนทดแทน การผลิต

ผู้ประกอบการและผู้จัดการขององค์กรต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการจัดการสินค้าที่ส่งคืนซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อกู้คืนมูลค่าทางเศรษฐกิจและระบบนิเวศให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ซึ่งจะช่วยลดปริมาณขยะสุดท้าย บริษัท ต่างๆต้องพัฒนานโยบายที่มีประสิทธิภาพสำหรับการจัดการผลิตภัณฑ์ที่กู้คืนโดยไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างต้นทุนอย่างมีนัยสำคัญ

บริษัท ต่างๆกำลังถ่ายโอนน้ำหนักเชิงกลยุทธ์ที่มากขึ้นของ Reverse Logistics ในรูปแบบของนโยบายการจัดซื้อที่มุ่งเน้นไปที่การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ซ้ำได้ดังนั้นจึงตอบสนองความสนใจของลูกค้าที่มีต่อ บริษัท ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมหรือโดยการกู้คืนส่วนหนึ่งของมูลค่าของวัสดุที่ส่งคืน ให้กับองค์กรจึงเพิ่มผลกำไร

วัตถุประสงค์หลักคือการได้รับมูลค่าสูงสุดที่เป็นไปได้สำหรับสินค้าและผลิตภัณฑ์ตามข้อ จำกัด ทางกฎหมายหรือข้อกำหนดที่กำหนดโดยผู้ขายหรือดำเนินการอื่น ๆ เพื่อกำจัดสินค้าโดยเสียค่าใช้จ่ายต่ำที่สุด

เมื่อผลิตภัณฑ์ถูกส่งคืนไปยัง บริษัท ไม่ว่าจะเป็นการคืนสินค้าภายในระยะเวลารับประกันหรือผลิตภัณฑ์เมื่อหมดอายุการใช้งาน บริษัท มีวิธีการจัดการที่หลากหลายโดยมีจุดประสงค์เพื่อกู้คืนมูลค่าบางส่วน ตัวเลือกเหล่านี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาหลายประการ ได้แก่ ความเป็นไปได้ทางเทคนิคคุณภาพของผลิตภัณฑ์การมีอยู่ของโครงสร้างพื้นฐานต้นทุนที่เกี่ยวข้องผลที่ตามมาต่อสิ่งแวดล้อม ฯลฯ

ในรูปต่อไปนี้เราจะเห็นวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นกิจกรรมหลักที่เกี่ยวข้องกับ Reverse Logistics

วงจรชีวิตของแหล่งผลิตภัณฑ์: โครงการโลจิสติกส์ย้อนกลับ

ในเม็กซิโกมี บริษัท เพียงไม่กี่แห่งที่ใช้ประโยชน์จากโลจิสติกส์ย้อนกลับเพื่อเป็นโอกาสในการลดต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มผลกำไรได้ถึง 5% และในทางกลับกันรักษาและได้รับลูกค้าซึ่งทำให้พวกเขาแข่งขันได้มากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย อย่างไรก็ตามแม้ว่าที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้จะไม่ได้พูดถึง บริษัท จำนวนหนึ่งที่นำไปใช้ - เนื่องจากถือว่าในประเทศเป็นสิ่งที่สร้างสรรค์ - แต่พวกเขายอมรับว่าเหนือสิ่งอื่นใดในช่วงวิกฤตนี้มี ความกังวลที่เพิ่มขึ้นของ บริษัท ต่างๆในการใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากข้อดีของโลจิสติกส์ย้อนกลับและลดต้นทุนในทางกลับกัน และตามปกติแล้วโลจิสติกส์ย้อนกลับเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ บริษัท พิจารณาน้อยที่สุดโดยเฉพาะ บริษัท ขนาดเล็กและขนาดกลางเนื่องจากรวมถึงการกำจัดของเสียผลิตภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้ผลิตภัณฑ์ที่เน่าเสียง่ายหรือวัสดุที่แน่นอน (ออร์ติซ, 2559).

วัตถุประสงค์พื้นฐานของโลจิสติกส์ย้อนกลับมีดังต่อไปนี้:

การจัดการการจัดซื้อการจัดการของเสียการกำจัดสินค้าการจำแนกประเภทของผลิตภัณฑ์วิศวกรรมผลิตภัณฑ์การนำกลับมาใช้ใหม่หรือการทำลายการส่งคืนการจัดการของเสียการรีไซเคิลการทดแทนวัสดุ (Cruz, 2015)

ตามรายการจะกล่าวถึงประโยชน์ของการดำเนินการตามกระบวนการนี้

การปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างผู้จัดจำหน่ายและลูกค้าช่วยเพิ่มภาพลักษณ์ของ บริษัทโดยการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมลดต้นทุนของบรรจุภัณฑ์อุตสาหกรรมหากนำกลับมาใช้ใหม่อย่างถูกต้องลดผลกระทบทางอุตสาหกรรมต่อสิ่งแวดล้อมช่วยให้สามารถสร้างแคมเปญทดแทนผลิตภัณฑ์เพื่อรักษาลูกค้าได้อนุญาตให้ใช้วัสดุที่ใช้ซ้ำแทนวัสดุ Virgins ลดปริมาณสินค้าในสินค้าคงคลังลงอย่างมากการเปิดตลาดใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์ที่นำกลับมาใช้ใหม่ความเป็นไปได้ในการได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐและยุโรปเพื่อพัฒนาฟังก์ชันนี้ลดต้นทุนและเพิ่มผลกำไร (ในระดับสากล, 2013)

ทำไมต้องใช้ Reverse Logistics

จากการบริโภคพลาสติกในปัจจุบันที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะขวดสำหรับเครื่องดื่มเพื่อการบริโภคของมนุษย์จึงจำเป็นต้องจัดสรรเวลาและทรัพยากรสำหรับการพัฒนากระบวนการเพื่อให้แน่ใจว่าการรีไซเคิลพลาสติกเป็นกิจกรรมที่ให้ผลกำไรทางเศรษฐกิจดังนั้นด้วยวิธีนี้ ช่วยลดจำนวนขวดที่ไปฝังกลบ เทคโนโลยีเหล่านี้ได้รับการพัฒนาไปทั่วโลกเพื่อตอบสนองต่อแรงกดดันทางสังคมที่มีอยู่ในชุมชนให้นำวัสดุเหล่านี้กลับมาใช้ใหม่แทนที่จะทิ้งทิ้งราวกับเป็นขยะและสิ่งนี้ไม่เพียง แต่ในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น แต่ในถนนสวนสาธารณะ และพื้นที่สาธารณะ

ตัวอย่างเช่น FEMSA Coca Cola ซึ่งตั้งอยู่ในเม็กซิโกซิตี้ บริษัท นี้เป็นผู้ผลิตขวดพลาสติกรายใหญ่อันดับสี่ของโลก FEMSA Coca Cola ได้ใช้ Numetrix / 3 ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์โลจิสติกส์แบบย้อนกลับโดยเฉพาะ เครื่องมือวางแผนทางยุทธวิธีนี้ช่วยให้สามารถปรับปรุงโปรแกรมพิเศษเพื่อให้ความต้องการที่พุ่งสูงขึ้นพร้อมกับการส่งคืนสินค้าคงคลังขวดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วช่วยลดความจำเป็นในการผลิตขวดเพิ่มเติมเพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ ๆ

และในที่สุดเนื่องจากมีการเข้าใจความพร้อมของขวดมากขึ้นการผลิตขวดพลาสติกแบบไม่ส่งคืนจึงลดลงส่งผลให้เงินทุนที่ FEMSA มีในสินค้าคงคลังของขวดที่เก็บไว้ลดลง

มีนโยบายทั่วโลกที่บังคับให้ใช้วัสดุรีไซเคิลในเชิงบวก กรณีของอุตสาหกรรมยานยนต์ควรได้รับการเน้นย้ำซึ่งเป็นเวลาหลายปีที่กำหนดบรรทัดฐานว่าชิ้นส่วนรถยนต์ที่นำมาใช้ในการผลิตมีวัสดุรีไซเคิลร้อยละที่มีนัยสำคัญ สิ่งนี้ไม่เพียง แต่เกี่ยวกับโครงสร้างตัวถังรถระบบกันสะเทือน ฯลฯ แต่ยังรวมถึงพรมปูพื้นแผงหน้าปัดเบาะนั่งและอื่น ๆ อีกด้วย ซึ่งสามารถระบุได้ว่าวัตถุดิบเป็นพลาสติกรีไซเคิล

น่าเสียดายที่เม็กซิโกไม่มีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีใน บริษัท รีไซเคิลพลาสติก มี บริษัท รีไซเคิลพลาสติกขนาดเล็กจำนวนมากที่ดำเนินกิจกรรมนี้ด้วยวิธีชั่วคราวโดยไม่ต้องมีโครงสร้างพื้นฐานที่เพียงพอจึงไม่สามารถผลิตวัสดุที่มีราคาและคุณภาพตามมาตรฐานที่แข่งขันได้ การกู้คืนวัสดุจากขยะมูลฝอยและนำกลับมาหมุนเวียนเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีมากมาย

นอกจากนี้ยังสามารถกล่าวได้ว่าภายในผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญสำหรับประเทศกำลังพัฒนาเช่นเม็กซิโกการรีไซเคิลทำให้เกิดงานจำนวนมากโดยเฉพาะในภาคการผลิต

การรีไซเคิลอาจส่งผลให้สูญเสียงานบางส่วนในการกำจัดของเสียและการสกัดและแปรรูปวัสดุบริสุทธิ์

ไม่ว่าในกรณีใดมีการศึกษาที่ชี้ให้เห็นว่าการรีไซเคิลมีผลในเชิงบวกสุทธิของการจ้างงานโดยตรงบนพื้นฐานทั่วทั้งดินแดนส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการที่การรีไซเคิลทำให้เกิดความจำเป็นในการปรับปรุงความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมใน สิ่งแวดล้อมทั่วโลกและรักษางานการผลิต (มาร์ติเนซ, 2000)

รูปต่อไปนี้แสดงสถิติบางส่วนที่เก็บรวบรวมในปี 2544 โดย Pemex Petroquímicaจากข้อมูลเหล่านี้ตลาดบรรจุภัณฑ์สามารถรีไซเคิลได้มากที่สุดเนื่องจากคิดเป็น 50% ของตันทั้งหมด สินค้าอุปโภคบริโภค (16%) วัสดุก่อสร้าง (16%) และกลุ่มอื่น ๆ อีกมากมายที่มีเปอร์เซ็นต์ต่ำกว่า (นับ, 2559)

การแบ่งส่วนตลาดในเม็กซิโก 2554 ที่มา: PEMEX Petroquímica

FU ERZAS ส่งเสริมโลจิสติกส์ย้อนกลับ

โดยหลักการแล้วจะเห็นได้ว่ามีกองกำลังบางอย่างที่สนับสนุนให้ใช้ Reverse Logistics ซึ่งในจำนวนนี้มีสามประเภท:

เหตุผลทางเศรษฐกิจ (ทางตรงและทางอ้อม) เหตุผลทางกฎหมายเหตุผลในการขยายความรับผิดชอบ (การ์เซีย, 2546)

พลังทางเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการกู้คืนทั้งหมดที่ บริษัท มีส่วนร่วมในผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจทั้งทางตรงและทางอ้อมแม้ว่าผลประโยชน์จะไม่เกิดขึ้นในทันทีการมีส่วนร่วมกับโลจิสติกส์ย้อนกลับอาจเป็นขั้นตอนเชิงกลยุทธ์หาก กฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกันเนื่องจากกฎหมายเดียวกันนี้และการใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างกันสามารถห้ามไม่ให้ บริษัท อื่นเข้าสู่ตลาดในที่สุดเราจะเห็นว่า บริษัท ที่มีภาพลักษณ์ที่ดี (ด้านสิ่งแวดล้อม) เป็นที่ต้องการในหลาย ๆ ตลาด เช่นเดียวกับกรณีของตลาดยุโรป ในทำนองเดียวกันภาพนี้เสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าเนื่องจากความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมของสังคมมีมากขึ้นเรื่อย ๆ

กรีนโลจิสติกส์

การเปลี่ยนแปลงการรับรู้ของธุรกิจในสิ่งแวดล้อม

Existe también lo que se conoce como la logística verde que se ocupa más ampliamente de problemas ambientales, si bien como su nombre lo indica se asocia más a la definición que se tiene de calidad ambiental, que en estos años ha llegado a significar: “…Agua potable segura, ecosistemas saludables, comida segura, comunidades libres de sustancias tóxicas, manejo seguro de desechos y la restauración de sitios contaminados.

En la siguiente tabla podemos ver el cambio de percepción de los negocios debido a la conciencia del medio ambiente.

La industria del reciclaje del PET

En la industria del reciclaje de los plásticos, industria en la cual se utiliza extensamente los principios de la logística inversa, se observa que existen problemas concretos por resolver:

Un problema actual, para el reciclaje del plástico es que, comparado con otros productos, no tiene un valor significativo en el mercado. Mientras el aluminio, el fierro, el papel y el vidrio se compran en las empresas recicladoras, el plástico usado tiene un bajo valor de compra. Una característica positiva, para el fabricante y el consumidor de bebidas, es que una botella de plástico pesa poco y ocupa mucho volumen; por ejemplo, una botella de refresco de 600 ml. sólo pesa 30 gramos. Esto, reduce el costo de transporte de manera significativa; pero, para el recolector, implica tener que juntar 33 botellas para hacer un kilogramo. Algunas empresas están resolviendo esta situación, instalando centros de acopio donde se prensa o muele el material, lo que facilita su traslado.

Otro problema que hay que solucionar, es el del mercado al que va el material reciclado. Pues, con las fluctuaciones en el precio del petróleo, el que hoy puede ser un buen negocio, mañana no lo es, y viceversa. Por esto, las empresas recicladoras están tendiendo a producir artículos con mayor valor en el mercado, de manera que disminuya el efecto de estas fluctuaciones en el precio.

Es así que la logística inversa está creciendo en importancia, ya que las compañías están cambiando la forma de hacer negocios. También puede ser especialmente importante en la industria del menudeo como otra manera de diferenciarse de sus competidores ofreciendo un servicio al cliente superior, y al mismo tiempo reduciendo el costo del negocio.

Otro punto a favor de este tipo de programas son las implicaciones ambientales, que son un campo creciente y los estándares tales como el ISO 14000, deben tener un gran impacto en las operaciones logísticas tradicionales. En muchas situaciones las organizaciones están eligiendo compañías para manejar este tipo de asuntos. (Garcia, 2003).

En la siguiente figura se muestra el sistema de reciclaje de botellas de plástico.

Etapas del proceso de reciclado y ECOCE Fuente: ECOCE

A

El análisis de la rentabilidad es un medio para evaluar las actividades logísticas y los cambios propuestos a los sistemas logísticos de una empresa. El análisis de la rentabilidad va más allá del análisis de costos totales incorporando el impacto de los ingresos generados por las actividades logísticas. Por ejemplo, un nivel de servicio que se ha mejorado puede provocar un aumento en los ingresos ya que los clientes preferirán su producto debido a sus niveles servicio. Tales cambios deben incorporarse en el análisis del sistema. Adicionalmente, el impacto de los recursos liberados como los niveles del inventario, cuentas por cobrar y activos logísticos fijos (almacenes) deben incorporarse en un marco de análisis.

Una medida crítica de éxito estratégico es el Rendimiento sobre la Inversión (ROI: Return Over Investment) que puede medirse típicamente por uno de los métodos existentes como el Rendimiento sobre el Valor Neto (RONW: Return Over Net Worth), o por Rendimiento sobre los Activos (ROA: Return Over Assets). El RONW mide la rentabilidad de los fondos que los dueños han invertido en el negocio, y es probablemente más de interés a accionistas e inversionistas. El ROA proporciona una perspectiva más operacional proporcionando una perspectiva de que tan bien son utilizados los recursos operacionales para generar ganancias. Así, el ROA se vuelve una herramienta directiva importante para el análisis de la rentabilidad logística.

Usando el análisis ROA podemos entender mejor el impacto de las decisiones de la logística inversa. El impacto de la logística inversa va más allá de las reducciones de los costos. De hecho, el impacto puede describirse ampliamente en lo que se refiere a los siguientes puntos:

Reducciones de costos que son producidos a través de las reducciones de costo de los bienes vendidos y los gastos operativos.La rotación mejorada de los recursos a través de un buen manejo de los inventarios.La Mejora en los ingresos a corto y largo plazo a través de ventas adicionales y mantenimiento del producto a precio completo debido a la existencia de stock más nuevo, que es ofrecido a sus clientes. (ECOCE, 2016)

Costos de buena voluntad

Se puede decir que una organización puede estar pagando por activos intangibles, que no están listados en la hoja de balance. El activo intangible puede ser por ejemplo: un producto o una tecnología prometedora (como en el caso del reciclaje) desarrollada dentro de la organización. O en algunos casos cuando se habla de una fusión, de las ganancias económicas de una organización. (Garcia, 2003)

Algunas compañías también lo muestran en sus hojas de balance, sin embargo el punto a tener en cuenta es que estos activos si se manifiestan en la hoja de balance deben ser amortizados sobre un periodo no mayor a 40 años, y que la amortización tiene que ser deducido del ingreso reportado, es por ello que la mayoría de las compañías prefiere el llamado “pooling1” esta acción no tiene un efecto visible en la hoja de balance, ya que solamente aglomera los datos de manera que la tecnología es tomada en cuenta como otros gastos y otras aportaciones. Sin embargo los efectos existen, ya que el cliente preferirá el producto sobre otros productos similares, lo cual puede generar un aumento en los ingresos y al mismo tiempo una rotación en los activos lo que generara también una mayor limpieza en el canal y un stock más fresco a disposición del cliente.

Costos de desembalaje y Reproceso

Los costos de desensamble y reproceso determinan el costo del sistema de reciclaje (para una operación de remanufactura), para un sistema dado, cuando crece el número de subensambles individuales, los costos de los subensambles crecen y el costo de reproceso cae, los subensambles más grandes que son removidos de un producto, requieren un reproceso o técnica más compleja, y un número grande de subensambles homogéneos simples requiere más tiempo para desensamble, pero son más simples de reprocesar. Algunos de estos subensambles inevitablemente tendrán que ser desechados debido a su complejidad y poco valor residual. (Garcia, 2003).

EJEMPLOS DE LOGÍSTICA INVERSA

En la industria existen varias aplicaciones de logística inversa, la cuales se mencionan a continuación.

1) Reutilización: la principal característica de este ejemplo de logística inversa es la idea de dar un nuevo uso a productos que ya ha sido utilizados en el mercado pero que no ha sufrido un deterioro importante. También se ha ido implantado en las empresas de fabricación de materias primeras la reutilización de materiales como puede ser en una empresa de fabricación de productos plásticos, dándoles a los excedentes del proceso de fabricación un nuevo uso.

2) Venta Outlet: en el mismo sentido que la reutilización cada vez más empresas se decantan por la venta de productos outlet, por ejemplo, productos con pequeñas taras pero que pueden ser usado perfectamente de manera que al menos puedan sacar un beneficio con la venta de los mismos. Con este sistema las empresas pueden evitarse tener excedentes y stock en sus almacenes a la vez que le dan una segunda vida a productos que en un principio iban a ser desechados.

3) Reparación: cada vez más las empresas ofrecen servicios de reparación para sus productos, por ejemplo en el caso de los electrodomésticos, muchas veces los mismos se estropean como consecuencia de su uso o de una pieza defectuosa. Si la misma empresa ofrece un servicio de reparación también se encarga de la completa satisfacción del cliente por su servicio de manera que si en el futuro necesita otro producto no lo comprará a la competencia por el buen servicio prestado.

4) Restauración: En el caso de la restauración de productos se trata de darles una nueva vida útil mediante el uso de nuevas tecnologías. De manera que si actualizas por ejemplo un sistema de software de un avión comercial en vez de cambiarlo por completo ahorras dinero a los clientes. Podríamos decir que la restauración se trata de usar las llamadas tecnologías TIC a los productos ya vendidos para la completa satisfacción de los clientes.

5) Remanufactura: La remanufactura pretende que un objeto que ya ha sido utilizado sea manufacturado nuevamente. Puede sonar un poco extraño dicho con la definición oficial, de lo que trata la remanufactura pretende que un producto que ya ha sido utilizado pueda recuperarse mediante diferentes procesos para que pueda volver a utilizarse en todo o en parte. Lo que se quiere conseguir es que se reemplacen las piezas que están gastadas de uso para que el producto tenga una segunda vida, evitando así volver a implantar el sistema de fabricación de inicio ahorrando costes a la empresa.

6) Canibalización: Con la canibalización se pretende usar una parte de los componentes de productos que ya han finalizado su vida útil para poder volver a usarlos en el proceso de fabricación del producto nuevo de manera que la empresa ahorre la compra de este producto pudiendo usar otra vez el que se usó para el antiguo producto. Es muy típico de empresas de tecnología.

7) Reciclaje: En el reciclaje se busca la recuperación de un material que en principio es considerado como un residuo para poder volver a utilizarlo para la fabricación de un nuevo producto, por ejemplo empresas de plástico que utilizan sus componentes para fabricar lámparas o bicicletas, la empresa reduce costes, residuos a la vez que se abre nuevos mercados.

8) Vertido controlado: con este método de logística inversa se finaliza la vida útil de un producto. Con este método se intenta reducir la contaminación de ciertos productos encargándose la empresa de que sean vertidos en un lugar adecuado.

9) Incineración: Con este sistema se reutilizan los materiales quemándose a grandes temperaturas, con la combustión del mismo puede conseguirse sistemas de calefacción o electricidad.

10) Refabricación: mediante este sistema se pretende volver a usar productos que pueden haber quedado obsoletos para el mismo cliente, de manera que la empresa puede ofrecer este servicio para que los productos no sean desechados y vuelvan a usarse. Como por ejemplo en las joyas, dando una nueva vida a unos pendientes. (Navarro, 2016)

Lo importante a tener en cuenta en los sistemas de logística inversa es la necesidad de las empresas de reutilizar los productos a la vez que satisfacen a sus clientes.

PROCESOS EN LOGÍSTICA INVERSA.

El proceso de logística inversa tiene 4 objetivos fundamentales para su realización.

Reducción de insumos vírgenesReciclado.Sustitución de materialesGestión de residuo

En los proceso clásico de logística organizacional se pueden identificar estos objetivos.

Procuración y Compras: se procura el desarrollo de proveedores y la adquisición de materias primas, materiales para envase, componentes, empaque, embalaje y unidades de manejo que sean por así decirlo “amigables con el ambiente”.

Reducción de insumos vírgenes: implica actividades de ingeniería de producto, y re-entrenamiento de los recursos humanos, con el propósito de: evaluar actividades de reutilización de materiales sobrantes, anteponer materiales de origen reciclado, escoger contenedores, embalajes, unidades de manejo, empaques y envases reutilizables y reciclables, impulsar la cultura del “retorno”.

Reciclado: Es necesario implementar políticas de reciclado respetando el desempeño y estándares del producto: utilizar materiales de origen reciclado, y reciclables; explorar innovaciones tecnológicas que permiten utilizar materiales reciclados; financiar estudios para reducir el uso de materias primas vírgenes.Sustitución de materiales: El incremento de la tasa de innovación en procesos de reciclado debe promover la sustitución de materiales, en particular de los más pesados por otros más ligeros con igual o superior performance.Gestión de residuos: Las políticas de procuración de materiales deben valorar la tasa de residuos en la utilización de materiales; el manejo de residuos es un costo no despreciable; también puede ser necesario tener políticas de aceptación de muestras, si las exigencias de gestión de los residuos de éstas, o simplemente su disposición por rechazo, es costosa.

Transporte y Gestión de Tráfico: El transporte y la gestión de tráfico es un proceso clave para la logística inversa. Existen operadores especializados en el manejo de retornos de productos reutilizables. Los costos del transporte alcanzan a un 25% de los costos totales de la logística inversa. De ahí la importancia de optimizar su gestión.

Reducción de insumos vírgenes: En el caso del transporte, este aspecto es a considerar en la producción misma del transporte: es necesario utilizar aceite reciclado, llantas (o cubiertas) recapadas (o revulcanizadas), así como filtros reconstruidos, y baterías con celdas de plomo derivadas del reciclado de baterías dadas de baja.Reciclado: Para el transporte de materiales a reciclar generalmente es necesario realizar un acondicionamiento para un mejor aprovechamiento de las unidades de transporte y disminuir costos de flete. También, a veces las normas exigen un pre- procesamiento para disminuir o controlar la peligrosidad de desechos.Gestión de residuos: Para la disposición final de residuos, es conveniente que los vehículos que los transportan dispongan de ciertas capacidades: compactadoras, granuladoras, mecanismos de ayuda a la clasificación como cribas, facilitar el acceso adecuado a la carga para realizar inspecciones, etc. También, el transporte de residuos exige un “ruteo” que minimice impactos negativos en el tráfico y a las comunidades (emisiones, ruido), así como una planificación integrada a las decisiones de localización de las áreas de relleno sanitario y/o basureros industriales.

Almacenamiento e Inventarios: Este proceso en logística inversa, involucra cuestiones de localización, lay-out, equipamiento de infraestructura para el manejo y de pre- procesamiento para almacenar más adecuadamente.

Reducción de insumos vírgenes: En general se trata de minimizar el número de almacenes, y realizar una reingeniería para manejar los materiales sustitutos. Conviene insistir en los procesos de tercerización con operadores logísticos especializados.Reciclado: Aquí se trata de manejar separadamente los materiales a reciclar de los desechos. Frecuentemente se necesitan equipamiento de pre- procesamiento diferentes; en general los que manejan el material para reciclar pueden ser inversiones del operador logístico que se hará cargo de ellos.Sustitución de materiales: Frecuentemente esta sustitución se da en el equipamiento de los almacenes: desde “racks” más durables, con un mejor tratamiento de electroforesis1 para las piezas metálicas, al cambio de montacargas con motores de combustión por los que usan electricidad que no contaminan.Gestión de residuo: La gestión de almacenes de residuos exige una estricta operación y un extremo cuidado en la clasificación de peligrosos o no.

Reducción de insumos vírgenes: En general se trata de minimizar el número de almacenes, y realizar una reingeniería para manejar los materiales sustitutos. Conviene insistir en los procesos de tercerización con operadores logísticos especializados.Reciclado: Aquí se trata de manejar separadamente los materiales a reciclar de los desechos. Frecuentemente se necesitan equipamiento de pre- procesamiento diferentes; en general los que manejan el material para reciclar pueden ser inversiones del operador logístico que se hará cargo de ellos.Sustitución de materiales: Frecuentemente esta sustitución se da en el equipamiento de los almacenes: desde “racks” más durables, con un mejor tratamiento de electroforesis1 para las piezas metálicas, al cambio de montacargas con motores de combustión por los que usan electricidad que no contaminan.Gestión de residuo: La gestión de almacenes de residuos exige una estricta operación FIFO2 y un extremo cuidado en la clasificación de peligrosos o no. (Antún, 2016)

Razones para la recuperación de productos fuera de uso

El establecimiento de mecanismos para la recuperación y el aprovechamiento de los productos desechados por los consumidores vienen originados, principalmente, por dos tipos de motivos: legales y económicos.

Motivos legales: las presiones realizadas por diferentes grupos sociales en demanda de un mayor respeto hacia el medio ambiente han provocado que, en los países más desarrollados las administraciones públicas estén promoviendo un conjunto de buenas prácticas medioambientales, lo cual se refleja en un extenso ordenamiento jurídico promulgado en los últimos años. (Lacoba, 2016)

Motivos económicos Las empresas buscan en la ejecución de sus actividades un valor añadido y una oportunidad de negocio. En este sentido, las razones de tipo económico que impulsan a las empresas hacia la recuperación y el aprovechamiento de los productos fuera de uso pueden analizarse desde dos puntos de vista: la de la Demanda y la Oferta. (Olvera & Méndez, 2010).

VENTAJAS Y DESVENTAJAS DE LA LOGÍSTICA INVERSA

Ventajas.

Algunas de las ventajas potenciales de la implementación de un programa de

Logística Inversa se mencionarán a continuación:

Disminución de la “sorpresa” o incertidumbre en la llegada de PFU.Reaprovechamiento de algunos materiales.Posibilidad de la empresa de abarcar otros mercados.Mayor conﬁanza en el cliente al momento de tomar la decisión de compra.Mejora considerable de la imagen de la empresa ante los consumidores.Obtención de información de retroalimentación acerca del producto.

Desventajas o áreas a mejorar en el proceso

Se requiere la realización de estudios previos para el establecimiento de políticas de decisión en el tema.No se trata sólo de una simple manipulación del producto.Todos los departamentos de la empresa están relacionados con las actividades que se pretendan implementar de Logística Inversa.Las entradas a un proceso de Logística Inversa son “impredecibles”.Las inspecciones deben ser realizadas en cada producto de forma individual y minuciosa.

CONCLUSIONES

Este proceso permite concientizar a las empresas a que deben utilizar recursos ambientalmente amigables, pues nuestro planeta necesita firmemente que las empresas sean socialmente responsables, que ayuden a recabar aquellos componentes de su producto que dañen al medio ambiente cuando el ciclo de vida de su producto acabe.

Las actividades de Logística Inversa sirven como herramienta de apoyo a la competitividad de las organizaciones, en la medida en que refuerza los lazos entre éstas y el cliente, haciendo a este último sentirse importante para el proveedor. Un buen servicio en todo el sentido de la palabra, es decir, que tenga en cuenta todas las posibilidades de contacto con el cliente, hace que éste sienta que le están cumpliendo con sus requerimientos y, por lo tanto, que la empresa se mantenga en una buena posición en el mercado.

Propuesta de tesis: Implementación de un Proceso de Logística Inversa en una Empresa de Fabricación de Muebles como Ventaja Competitiva en la Región de Huatusco, Veracruz.

Objetivo General: implementar un sistema de logística inversa como ventaja en competitiva para la reutilización de recursos en la fabricación de muebles.

BIBLIOGRAFÍA

Antún, J. P. (03 de octubre de 2016). w w w.lo g istica m x.c o m. Obtenido de: www.logisticamx.com: http://www.logisticamx.enfasis.com/notas/3797-hacia-una-logistica-inversa-exitosaBallou, R. H. (2004). Logística. Administración de la cadena de suministro. México: Pearson.Bastos Boubeta, A. I. (2007). Distribución Logística y Comercial. La logística en la Empresa. Barcelona.Conde, O. M. (03 de octubre de 2016). w w w. p t q. p e m e x. gob. m x. Obtenido de www.ptq.pemex.gob.mx: http://www.ptq.pemex.gob.mx/productosyservicios/eventosdescargas/Documents/Foro%20PEMEX%20Petroqu%C3%ADmica/2012/03%20Mercado%20pl%C3%A1sticos%202012.pdfCruz, M. I. (16 de mayo de 2015). w w w. ge s ti opo l i s. c o m. Obtenido de www.gestiopolis.com: http://www.gestiopolis.com/logistica-inversa-concepto-ventajas-y-desventajas/ECOCE. (03 de octubre de 2016). w w w. e c o c e.c o m. m x. Obtenido de www.ecoce.com.mx.Española, R. (2001). Diccionario de la Real Academia Española. Madrid: ESPASA.Garcia, O. A. (29 de marzo de 2003). w w w. ge sti o po l i s.c o m. Obtenido de www.gestiopolis.com: http://www.gestiopolis.com/logistica-inversa-por-que-y-como-implementarla-con-exito/Internacionalmente. (24 de julio de 2013). w w w.i n t e rn a ci o na l m en t e.c o m. Obtenido de www.internacionalmente.com: http://internacionalmente.com/los-10-beneficios-de-la-logistica-inversa/Martinez, C. J. (2000). Programa de Logistica Inversa. México: Norma.Mihi, R. A., Arias Aranda, D., & García Morales, V. J. (2012). La gestión de la logística inversa en las empresas españolas: hacia las prácticas de excelencia. Universia Business Review, 70-82.Navarro, X. (03 de octubre de 2016). w w w. d eu s t o f o r m a cio n.c o m. Obtenido de www.deustoformacion.com: http://www.deustoformacion.com/blog/empresa/10-ejemplos-logistica-inversaOlvera, d. M., & Méndez, P. J. (10 de diciembre de 2010). www.redalyc.org.Obtenido de www.redalyc.org: Conciencia Tecnologica. Obtenido de http://www.redalyc.org/pdf/944/94415759010.pdfOrtiz, S. (03 de octubre de 2016). w w w.c n ne x p an si o n.c o m. Obtenido de www.cnnexpansion.com.Rosas, L. H., Rosas, T. M., Rodríguez, L. M., Castañeda, G. J., & Torres, L. A. (2009). Logística inversa: Una alternativa para la gestión de productos fuera de uso (PFU). La Nueva Gestión Organizacional, 12-23.

ดาวน์โหลดไฟล์ต้นฉบับ